Gooner Journey: ย้อนความหลัง ‘ดาร์บี้ลอนดอนเหนือ’ EP.2
อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือชาวฝรั่งเศส ตัดสินใจเข้ามาคุมสโมสรแห่งไฮบิวรี่เมื่อปี 1996 และหลังจากวันนั้นทุกอย่างที่เคยเป็นของ สเปอร์ส ก็เริ่มถดถอยลงไปในสายตาของชาวลอนดอน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคสมัยของ อาร์แซน เวนเกอร์ คือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของ อาร์เซนอล และมันบ่งบอกในทางกลับกันว่า สเปอร์ส กำลังตกต่ำกว่าพวกเขานับตั้งแต่ปี 1996-2018 เพราะนอกจากแชมป์ลีกคัพ 2 สมัยในปี 1998/1999 และ 2007/2008 ‘ทัพไก่เดือยทอง‘ ก็ไม่เคยเข้าใกล้ความสำเร็จอะไรอีกเลย ภายใต้ช่วงเวลาที่ เวนเกอร์ คุมบังเหียน ‘ทีมปืนใหญ่‘ โดยเฉพาะแฟนบอลของพวกเขาที่ต้องทนทุกข์ทรมาณและเจ็บปวดกับการสูญเสียสไตล์ฟุตบอลเกมบุกที่น่าสนใจให้กับ อาร์เซนอล
และเมื่อ
‘กุนซือชาวเฟรนช์‘
ได้นำปรัชญาฟุตบอลสมัยใหม่เข้ามาใช้ในพรีเมียร์ลีกเป็นทีมแรก แถมด้วยการดึงนักเตะฝีเท้าดี ไม่ว่าจะเป็น เดนนิส เบิร์กแคมป์, ปาทริค วิเอร่า, เอ็มมานูเอล เปอตีต์ และ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส สิ่งเหล่านี้มันสร้างให้ อาร์เซนอล เปลี่ยนเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้สวยงามมากที่สุดในลีกและกลายเป็นสโมสรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรุงลอนดอน รวมถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพียงเท่านี้ก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขามาไกลเกินกว่า สเปอร์ส อยู่หลายช่วงตัว
ตลอดช่วงระยะเวลาที่ทีมแห่งไฮบิวรี่ครอบครองความยิ่งใหญ่แบบผูกขาด ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ทำให้แฟนบอล
‘ท็อตแน่ม‘
ต้องละเหี่ยใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในเรื่องราวพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งทุกฉบับคือการย้ายทีมของ โซล แคมป์เบล แนวรับนักเตะเยาวชนและอดีตกัปตันทีมของพวกเขา ที่ตัดสินใจโยกไปซบฝั่งสีแดงในปี 2001 มิหนำซ้ำสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ "พ่อคุณเอ้ย! แกดันไปประสบความสำเร็จในฐานะแชมป์ไร้พ่าย" เมื่อฤดูกาล 2003/2004 ราวกับว่าเขาคือนักเตะของ
‘ไอ้ปืนใหญ่‘
มาตั้งแต่ต้น
อย่างไรก็ตามโชคไม่ได้เลวร้ายสำหรับแฟนบอลของ สเปอร์ส อยู่ร่ำไปเมื่อ อาร์เซนอล ตัดสินใจรัดเข็มขัดตัวเองหลังพวกเขาลงทุนกับการสร้างสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม จนทำให้ต้องใช้จ่ายแบบประคับประครอง ส่งผลให้สโมสรปรับตัวไม่ทันกับอำนาจฟุตบอลในช่วงต้นทศวรรษ 2010 ที่มีทีมอย่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หอบเงินถุงเงินถังในการถลุงสุดยอดผู้เล่นค่าตัวแพงเข้าสู่ทีม
จากวันนั้นจนถึงปัจจุบัน
‘ทัพไก่เดือยทอง‘
สามารถกลับสู่เส้นทางการขับเคี่ยวแย่งชิงโควต้าพื้นที่รายการยุโรปกับ อาร์เซนอล อย่างดุเดือดในทุกฤดูกาล ประกอบกับความสำเร็จในช่วง 10 ปีหลังสุดที่พวกเขาทำได้เหนือกว่าอยู่เล็กน้อย จึงทำให้ ‘ดาร์บี้ลอนดอนเหนือ’ กลับมาปะทุ
‘ความลากเลือดเดือดพล่าน‘
อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน
เขียนโดย The Lite Team.